6200571 นางสาวอรญา ดอกนางแย้ม
เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา CIS200 หรือ DBS101 ภาคการศึกษา 1/2562
วิธีรับมือกับโรคลมพิษสำหรับผิวแพ้ง่าย
“โรคลมพิษ” (Urticaria) ภัยใกล้ตัวที่เราทุกคนไม่ควรมองข้ามเพราะโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้จะเป็นโรคที่ไม่มีความร้ายแรงมากนัก แต่ก็สามารถสร้างความรำคาญใจให้กับผู้ป่วยค่อนข้างมาก ทั้งในด้านบุคลิกภาพ การทำงาน รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งคนส่วนใหญ่มักไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าตนเองนั้นแพ้อะไร อีกทั้งด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในยุคปัจจุบัน ก็อาจเป็นอีกปัจจัยเร่ง ที่ทำให้เกิดความรุนแรงขอโรคลมพิษได้เช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรทำความรู้จักกับโรคลมพิษให้มากขึ้น เพื่อที่จะได้ดูแลตัวเราเอง และคนรอบข้างของเราให้แข็งแรงอยู่เสมอ

โรคลมพิษแบ่งออกเป็นกี่ชนิด
เราสามารถแบ่งชนิดของโรคลมพิษเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
-
โรคลมพิษเฉียบพลัน (Acute Urticaria) ผื่นลมพิษที่จะเกิดขึ้นตามร่างกายในระยะเวลาติดต่อกัน ไม่เกิน 6 สัปดาห์
-
โรคลมพิษเรื้อรัง (Chronic Urticaria) ผื่นลมพิษที่จะมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ อย่างต่อเนื่อง นานเกินกว่า 6 สัปดาห์ขึ้นไป
วิธีบรรเทา และ ป้องกันลมพิษด้วยตัวเอง
โรคลมพิษมักจะส่งผลให้ผู้ป่วยมีความกังวลต่อการดำเนินชีวิตตลอดเวลา สิ่งที่ควรปฏิบัติหากรู้ว่าตนเองนั้นเป็นโรคลมพิษ เพื่อบรรเทาและป้องกันลมพิษได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังช่วยให้การวินิจฉัยของแพทย์สามารถทำได้ง่ายขึ้น ดังเช่น
1. หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นให้เกิดลมพิษตามแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
2. ต้องนำยาต้านฮิสตามีนติดตัวไว้เสมอ เมื่อเกิดอาการจะใช้ได้ทันที
3. ทำจิตใจให้สบาย ไม่เครียด
4. ไม่แกะเกาผิวหนัง เพราะอาจทำให้เกิดผิวหนังอักเสบจากการเกา
5. รับประทานยาตามแพทย์สั่ง หากยาทำให้เกิดอาการง่วงซึม จนรบกวนการทำงานควรบอกแพทย์เพื่อเปลี่ยนยา
ผื่นลมพิษในผู้ป่วยบางราย แม้ว่าแพทย์จะพยายามตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียดแล้ว แต่ก็อาจหาสาเหตุที่ชัดเจนไม่พบ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าความรู้ทางการแพทย์ปัจจุบันยังไม่มากพอที่จะอธิบายหาสาเหตุได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามแนะนำว่าผู้ป่วยโรคลมพิษควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ ซึ่งหากพบสาเหตุที่ก่อให้เกิดลมพิษและหลีกเลี่ยงหรือรักษาสาเหตุนั้นได้ จะทำให้โรคลมพิษสงบลงหรือหายขาดได้